ใครชอบใช้เวลาวันหยุดกับการนอนดู Netflix บ้าง วันนี้ Sanook มีซีรี่ย์ใหม่ Netflix และหนังอัปเดตใหม่ล่าสุดมาฝากค่ะ ดูวนกันไปยาว ๆ ทั้งหนัง การ์ตูน ซีรีส์ ไม่ว่าจะไทย เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งจะดูแบบพากย์ไทย หรือจะดูแบบซับไตเติ้ล เพื่อฝึกฝนสกิลการฟังและการอ่านภาษาอังกฤษ สะสมคลังศัพท์ของตัวเองไปพลาง ๆ ก็ได้เช่นกัน หนังอัปเดตใหม่มีเรื่องอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย ซีรีส์เน็ตฟลิกซ์มาใหม่ ภาพยนตร์การ์ตูนแนวผจญภัย/ตลก/กรอมมิท ยอดตูบ ออกโรงช่วยเจ้านาย เมื่อสิ่งประดิษฐ์ไฮเทคของวอลเลซออกอาละวาด แล้วจัดฉากป้ายสีให้เขาเป็นผู้ร้าย ในอาชญากรรมซ่อนเงื่อนหลายคดี ยิ้มหน่อย วอลเลซและกรอมมิทกลับมาต่อกรกับคู่ปรับเก่า ในภาพยนตร์อนิเมชั่นแนวตลก ที่ใช้เทคนิคสต็อปโมชันจากค่าย Aardman ผู้สร้างอนิเมชั่นดีกรีรางวัล
อาร์ดแมน แอนิเมชัน สตูดิโอผู้สร้างแอนิเมชันดินน้ำมันชื่อดังของอังกฤษ แม้จะเคยมีข่าวถึงความเสี่ยงที่อาจยุติงานสร้างเนื่องจากทรัพยากรลดลง แต่ในปีนี้ยังคงนำเสนอความคลาสสิกผ่านเรื่องราวใหม่ “Wallace & Gromit: Vengeance Most Fowl แค้นติดปีก” ซึ่งเป็นการกลับมาของคู่หู วอลเลซและกรอมมิต กับการผจญภัยครั้งใหม่ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคและความตื่นเต้น
หนัง Wallace & Gromit (วอลเลซแอนด์กรอมมิท) : แค้นติดปีก
วอลเลซและกรอมมิตใช้ชีวิตอย่างสงบจนกระทั่งการมาของ “นอร์บอต” สิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่สร้างความไม่ไว้วางใจให้กรอมมิต การนำปัญญาประดิษฐ์เข้าบ้านทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ว่านี่คือแผนแก้แค้นของศัตรูมีปีกที่เคียดแค้นและมุ่งเล่นงานทั้งคู่เพราะพวกเขาคืออุปสรรคสำคัญของมัน
ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์ Wallace & Gromit เรื่องแรกในรอบเกือบ 20 ปี นับตั้งแต่ภาค The Curse of the Were-Rabbit ในปี 2005 โดยแม้ก่อนหน้านี้จะมีภาพยนตร์สปินออฟอื่นอย่าง A Shaun the Sheep Movie: Farmageddon ออกฉายทางสตรีมมิ่งไปแล้ว แต่เรื่องนี้ยังคงได้ทีมสร้างดั้งเดิม นำโดย “นิค พาร์ค” มารับหน้าที่กำกับและร่วมวางแนวคิดภาพยนตร์ ซึ่งถือเป็นการสานต่อเรื่องราวของแฟรนไชส์จากอดีตถึงปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง
Wallace&Gromit : วอลเลซแอนด์กรอมมิท Vengeance Most Fowl ยังคงนำเสนอความคลาสสิกผ่านงานปั้นที่ประณีตและเป็นเอกลักษณ์จากอาร์ดแมน แม้เทคโนโลยีการสร้างภาพยนตร์จะก้าวไกล แต่พวกเขายังคงรักษาสไตล์ดั้งเดิมและผสมผสานความทันสมัยได้อย่างลงตัว สร้างเสน่ห์และความสมบูรณ์แบบให้ภาพยนตร์อย่างน่าประทับใจ
ภาค Vengeance Most Fowl ยังคงรักษาเอกลักษณ์อารมณ์ขันแบบอังกฤษได้อย่างลงตัว แม้เนื้อเรื่องจะดูเชยไปบ้าง แต่ยังสามารถนำเสนอจุดเด่นของการ์ตูนได้ดี การผสมผสานประเด็นเรื่องปัญญาประดิษฐ์เข้าไปช่วยให้เนื้อหาดูทันสมัย ขณะที่ยังคงกลิ่นอายความคลาสสิกไว้ได้อย่างลงตัว
โดยในภาคนี้ก็ยังคงได้ทีมนักแสดงรุ่นใหญ่ยอดฝีมือฝั่งอังกฤษมาสร้างสีสันด้วยเงาเสียงเหมือนเคย “เบน ไวต์เฮด” กลับมาให้เสียงคุณวอลเลซ อันคงเอกลักษณ์ได้เหมือนเคย ร่วมด้วย “ปีเตอร์ เคย์”, “รีส เชียร์สมิธ”, “ลอเรน พาเทล” และ “ไดแอนน์ มอร์แกน” มาช่วยเติมเต็มความสนุกด้วยจังหวะเสียงสำเนียงอังกฤษและการยิงมุกแบบบริติชที่แสบ ๆ คัน ๆ กำลังพอดี การกลับมาของวอลเลซและกรอมมิตเป็นการเติมเต็มความรู้สึกที่อบอุ่นและคลาสสิกที่ยังคงสร้างความประทับใจได้ งานสร้างและองค์ประกอบต่าง ๆ ยังคงรักษาสไตล์ดั้งเดิมไว้อย่างเต็มที่ แม้พล็อตเรื่องจะไม่แปลกใหม่ แต่ก็ยังสามารถมัดใจผู้ชมและมอบความบันเทิงได้อย่างครบถ้วน